วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2560

ทุกคนเรามารู้จักต้นกระบองเพชรกันดีกว่า

ถ้าเพื่อนๆกำลังมองหาต้นไม้ที่สามารถนำมาเลี้ยงเพื่อตกแต่งมุมต่างๆของบ้านและโซนโต๊ะทำงานที่ออฟฟิศหรือต้องการหากิจกรรมยามว่างให้กับตัวเอง ให้ได้มีโมเม้นกับการปลูกต้นไม้ต้นเล็กๆแสนน่ารักที่เป็นมากกว่าต้นไม้ธรรมดา ต้นไม้ที่ผมจะมาแนะนำเพื่อนๆ ก็คือ ต้นกระบองเพชร นั้นเอง


เจ้าต้นหนามแหลมๆต้นจิ๋วๆนี้เลยครับ เพื่อนๆจะต้องหลงรักเจ้าต้นกระบองเพชรนี้แน่นอน เป็นต้นไม้ที่เลี้ยงไม่ยากมากเท่าไหร่ และดูง่ายๆไม่ซับซ้อน และมีสายพันธุ์ที่ต่างรูปแบบให้น่าหลงใหลไปกับกับเจ้าต้นกระบองเพชรนี้  เพื่อนๆเราจะเลี้ยงดูเค้าทั้งที่เราก็ต้องทำความรู้จักก่อนว่าเค้าคือต้นไม้อะไรกันแน่เห็นมีแต่หนาม ต้นกระบองเพชรนั้นเป็นไม้อวบน้ำชนิดหนึ่งที่มีความสามารถเก็บน้ำไว้ในลำต้นเป็นจำนวนมาก เลยทำให้สามารถทนต่อสภาพอากาศร้อนๆแดดแรงแบบบ้านเราได้อย่างดีเลย เป็นไม้ยืนต้นที่มีขนาดเล็กถึงปานกลาง เป็นไม้ต้นเตี้ยๆจิ๋วๆ ดูน่ารักน่าเอ็นดู มีหลายรูปแบบต่างกันตามพันธุ์ แต่ต้นพันธุ์ต่างมีลักษณะที่เหมือนกัน นั้นคือ หนามน้อยๆ นั้นเอง ซึ่งเป็นจุดเด่นของเค้าก็ว่าได้ครับ ส่วนการเลี้ยงดูและการดูแลสำหรับผู้ที่ต้องการเลี้ยงเจ้าต้นกระบองเพชรน้อยนี้ เรามาทำความรู้จักกับเจ้าต้นหนามแหลมกันเลย

                                             
                                                  


1.จะเลี้ยงเค้าทั้งทีไม่รู้จักเค้าได้ไง
เจ้ากระบองเพชร หรือ แคคตัส (Cactus) เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงปานกลาง ต้นเล็กกำลังน่ารัก จัดอยู่ในจำพวกไม้อวบน้ำ ไม้อวบน้ำนั้นมันเป็นยังไงสงสัยกันละสิ ไม้อวบน้ำนั้นเป็นพืชที่มีความสามารถพิเศษในการกักเก็บน้ำไว้ในต้นตัวเองนั้นเอง เป็นพืชที่สามารถพบเจอเยอะเป็นพิเศษที่เขตภูมิอากาศแห้งแล้ง เจ้าต้นกระบองเพชรและไม้อวบน้ำเป็นพืชที่ทนต่อสภาพอากาศที่แสนแห้งแล้งได้ดีอย่างมากเลยนะ  โดยพืชเหล่านี้ได้มีการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมโดยการปรับตัวด้านสรีระนั้น คือการที่ลดการผลิใบของตัวมันเองและได้เปลี่ยนให้เป็นหนามแหลมๆทั่วต้นเลย 



เพื่อเป็นการป้องกันการสูญเสียน้ำมากเกินนั้นเองทุกคน มันน่ารักน่าหลงใหลใช่ไหมละครับทุกคน เป็นพืชที่ชอบแสงแดดมากๆ อากาศแบบบ้านเรานี้เป็นที่ถูกใจของเค้าเลย ต้นกระบองเพชรนั้นมีรูปร่างที่ต่างกันไปในแต่ละพันธุ์แต่ทุกพันธุ์นั้นมีวิธีการเลี้ยงดูที่ไม่ต่างกันเลย ดูแลง่ายไม่ยาก  แต่ก็เป็นพืชที่ต้องการความเอาใจใส่ด้วยนะเพื่อน ใช่ว่าเห็นเค้าเป็นพืชที่มีความอดทนต่อแดดและการอดน้ำเลยจะปล่อยปะละเลยเค้า เราก็ดูแลเค้าอย่างดีเช่นกันนะครับ 



2.ถึงจะดูแตกต่างแต่หนูก็คือกระบองเพชรนะ
อย่างที่ผมบอกไว้ว่า ต้นกระบองเพชรนั้นมีหลายรูปแบบที่ต่างกันไปตามสายพันธุ์ของเค้า งั้นเรามารู้จักกับสายพันธุ์หลักๆที่เรานิยมนำมาเลี้ยงเพื่อเป็นไม้ประดับคู่บ้านและโต๊ะทำงานของเรากันเลย ว่ามีสายพันธุ์อะไรบ้าง


1.ยิมโนหัวสี (Gymnocalycium) เป็นต้นกระบองเพชรที่มีจุดเด่นก็คือสีที่ดุสดใสมองเห็นแต่ไกล เป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากๆจากคนที่เริ่มปลูกใหม่ เพราะสีที่สวยงานของเค้านั้นเอง ก็สวยดูเด่นขนาดนี้ไม่รักได้ไง  ต้นยิมโนนั้นไม่สามารถปลูกลงดินได้เลยทำให้ต้องไปเพาะบนต้นแก้วมังกรนั้นเอง เลยต้องดูแลเรื่องการรดน้ำและการรับแสงของต้นยิมโนให้มากๆ เพราะถ้าหากต้นแก้วมังกรที่เปรียบเหมือนลำต้นเค้าตาย เค้าก็ตายด้วย ต้องระวังกันนะ


ยิมโนหัวสี


2. แอสโตรไฟตัม (Astrophytum) เป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมลำดับต้นๆเลยและเป็นที่นิยมมากชนเป็นที่ต้องการของตลาดเลย เพราะต้นที่มีขนาดเล็กอ้วนๆกลมๆ มีรูปร่างเหมือนกัน รูปดาว และ มันเลี้ยงง่าย และที่หลายคนชอบเป็นพิเศษเลย เนื่องจาก พันธุ์แอสโตรนี้ ไม่มีหนาม บางคนเค้าถือเรื่องความเชื่อเรื่องหนาม ที่ว่าการนำสิ่งมี่เป็นหนามแหลมคมเข้าบ้านจะปัญหาเข้ามาในบ้านเหมือนกับมีหนามค่อยทิ่มแทงนั้นเอง คนจึงนิยมเลยกันมาก

แอสโตรไฟตัม 


3. ถังเงิน  (Echinocactus grusonii v.albispinus) ส่วน ถังทอง (Echinocactus grusonii) เป็นอีกกระบองเพชรที่คนนิยมเลี้ยงเป็นจำนวนมาก มนตลาดบ้านเรา เนื่องจากมีขนาดต้นในตอนเเรกที่เล็กน่ารัก แต่ต้นถังทองกับถังเงินสามารถโตและมีขนาดที่ใหญ่มากได้เลย เป็นกระบองเพชรเริ่มต้นที่ต้องมีติดบ้านเลยก็ว่าได้ อีกเหตุผลที่มันเป็นที่นิยมก็เพราะมีความเชื่อว่าปลูกไว้ในบ้านจะช่วยให้มีโชคลาภ เหมือนดังชื่อของมันนั้นเอง


ถังเงิน
  


4.แมมมิลลาเรีย (Mammillaria) หรือชื่ที่หลายคนคุ้นหูกัน ขนนก นั้นเอง เป็นไม้เริ่มต้นที่น่ารัก สวยงามมาก ขนนก นี้ๆหลายๆคนต้องชอบแน่ๆ และ พันธุ์นี้เค้ามีจุดเด่นที่หนามรอบต้นของเค้านั้นเอง ที่เป็นหนามที่มีความอ่อนนุ่มเหมือน ขนนก เลยไม่ทำให้เจ็บเวลาไปแตะโดน เลยทำให้ครองใจได้หลายคน
แมมมิลลาเรีย(ขนนก)




        5.ดิสโก้ (Discocatus) เป็นพันธุ์ที่มีลักษณะต้นกลม ไม่สูงมาก มีหนามขึ้นลักษณะฟูๆขึ้นเต็มต้น แต่ไม่มีความคม แต่ไม่นุ่ม เป็นที่นิยมในกลุ่มคนเริ่มต้นเช่นกัน ไม่น่ารักได้ไง ก็ทั้งกลมทั้งไม่เจ็บเวลาจับ






ดิสโก้


3.อย่าเลี้ยงเล่นต้องใส่ใจหนูด้วย
          

ที่มารูปภาพ

ต้นกระบองเพชรถึงเป็นพืชที่มีความอดทนต่อความร้อนได้ดี แต่ทุกคนเราก็อย่าลืมนะว่าเค้าก็เป็นพืชเหมือนกับพืชทุกชนิดนะครับ เค้าก็ต้องการ"น้ำ"เหมือนกันนะครับถึงจะอดน้ำได้ดีก็ตามเค้าก็หิวน้ำได้เช่นกัน แต่ก็มีผู้เลี้ยงหลายคนมองข้ามความต้องการพื้นฐานของเค้าไปเลย






ที่มารูปภาพ




โดยคิดว่าเค้าเป็นพืชทะเลทรายอดน้ำได้นานไม่ตายง่ายๆหรอก ค่อยให้ก็ได้ ถ้าคุณคิดอย่างงี้คุณกำลังจะทำร้ายเค้าทางอ้อมเลยรู้ไหม เค้าก็เหมือนกับเราที่ไม่ได้กินน้ำแล้วจะตาย คุณคงไม่อยากอดน้ำตายแน่ๆผมเชื่อ อย่าละเลยเรื่องน้ำของเค้าเลย






การให้น้ำต้นกระบองเพชรนั้น ก็ต้องให้น้ำถูกวิธีด้วยนะทุกคน อย่าให้ผิดวิธีเลยนะไม่งั้นก็เหมือนเราไม่ให้น้ำเค้าเลย หลายคนจะนึกภาพการให้น้ำต้นกระบองเพชรผิดวิธีจาก การดูละครหรือภาพยนตร์บางเรื่อง ที่ให้น้ำต้นกระบองเพชรโดยการใช้ฟ็อกกี้ฉี่น้ำให้เป็นละอองเบาๆไปที่ทั่วลำต้นเค้านั้นเองนั้นเองครับทุกคน ผิดยังไงหลายคนคงสงสัย เพื่อนๆอย่าลืมว่าเค้าเป็นพืชนะครับเค้าสามารถดูดนำน้ำไปเลี้ยงลำต้นและทุกส่วนของเค้าทาง"ราก"นั้นเอง การที่เราไปฉีดละอองน้ำที่ตัวต้นเค้า จะได้รับน้ำยังไงละครับ เห็นไหมครับคุณมองข้ามเค้าไปแล้วถ้าคุณคิดอย่างงี้ แต่ผมก็ขอแนะนำไว้ว่า ต้นกระบองเพชร นี้เค้าเป็นพืชที่มีความอดทนสูงก็จริง แต่ความจริงเค้าเป็นพืชที่มีความระเอียดอ่อนมากๆเลย ต้องใส่ใจเค้าหน่อยนะครับ ไม่ใส่แค่เลี้ยงไว้ประดับโต๊ะทำงานหรือรั่วบ้าน ไม่ใช่ให้แค่น้ำอย่างเดียวนะครับที่เราต้องใส่ใจกัน เค้าก็ต้องการแหล่งพลังงานที่สำคัญของพืชทุกชนิดนั้นคือ "แสงแดด" อย่ามองข้ามเลย อย่าลืมพาเค้าไปรับแสงแดดบ้าง เค้าชอบแดดมากๆ 


4.หนูก็มีดินที่หนูชอบนะ         
ขึ้นต้นว่า "พืช" ยังไงเค้าก็ต้องการแหล่งอาหารที่ดีนั้นก็คือ "ดิน" นั้นเอง พืชใช้ดินเป็นแหล่งดูดซับอาหารไม่ว่าจะเป็นน้ำ ปุ๋ยและสารอาหารต่างๆ มายังต้นนั้นเอง ดินมีหลายชนิด ทั้ง ดินเหนียว ดินร่วน ดินทราย แต่ทุกๆคนเจ้าต้นกระบองเพรชต้นน้อยๆของเรานั้น เค้าก็มีดินที่ชอบเป็นของตัวเองนะ ไม่ใช่จะนำลงไปปลูกในดินปลูกต้นไม้ทั่วไป ไม่งั้นเค้าตายแน่ๆ โดยเจ้าดินที่เค้าชอบนั้นคือ "ดินแคคตัส" เป็นดินสูตรที่ผสมมาเพื่อเจ้าต้นกระบองเพชรของเรานั้นเอง ทำให้เค้าสามารถนำสารอาหารไปเลี้ยงต้นได้ง่าย ดินแคคตัส นั้นสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายต้นกระบองเพชรและร้านต้นไม้ทั่วไป


ดินแคคตัส
แต่ถ้าเพื่อนไม่อยากไปซื้อดินแคคตัสถุงน้อยๆมาใช้เพราะที่บ้านมีเจ้าต้นกระบองเพชรเป็นจำนวนมากกลัวทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง ผมแนพนำเลยให้เราทำดินแคคตัสเองที่บ้านได้เลยตามนี้เลยครับ วิธีผสมดินแคคตัสครับ คลิกเลย



5.อาหารหลักก็จำเป็นแต่อาหารเสริมก็ขาดไม่ได้นะ     
ที่มารูปภาพ
เราพูดถึงดรื่องที่เหมาะกับเจ้ากระบองเพชรไปแล้วซึ่งดินเป็นแหล่งอาหารหลักแต่เค้าก็ต้องการอาหารเสริมบ้างนั้นคือ"ปุ๋ยออสโมโค้ท"ถึงแม้ว่าเจ้ากระบองเพชรจะเป็นไม้โตช้าแต่ก็ควรได้รับปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอโดควรได้รับปุ๋ยเดือนครั้งละ1-2ครั้ง ปุ๋ยออสโมโค้ทนั้น จะช่วยบำรุงลำต้นให้สมบูรณ์แข็งแรงและช่วยกระตุ้นการออกดอกของเจ้าต้นกระบองเพชรแต่ถ้าใช้ในอัตราส่วนที่ไม่เหมาะสมจะทำให้ต้นไม้ระเบิดออก การะเบิดคือ การที่ต้นกระบองเพชรโตเร็วเกินไปจนทำให้ต้นฉีกออก
6.บ้านดูดีหนูก็ดูดีตาม
ที่มารูปภาพ
กระถางแบบสี่เหลี่ยม

เห็นได้ตามร้านขายต้นกระบองเพชรทั้วไปเลย 


เราก็รู้ว่าเค้าชอบดินอะไรแล้วต้องให้ปุ๋ยตัวไหนกับเค้าแต่เราอย่าลืมไปว่าเค้าก็ต้องการบ้านนะทุกคน บ้านนี้ที่นี้คือ กระถาง นั้นเอง กระถางถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างนึงในการเลี้ยงต้นไม้ทุกประเภทเพราะบางบ้านไม่มีพื้นที่พอที่จะนำไปปลูกลงดินหรือบริเวณสวน การเลือกกระถางเลยจำเป็นนะ เพราะว่าต้นไม้เค้าก็โตได้เหมือนกัน อย่างจำต้นกระบองเพชรของเรามันก็สามารถโตได้จนต้นใหญ่มากๆ แต่ถึงเค้าจะโตช้าก็ตาม แต่เราก็ควรเปลี่ยนกระถางให้เหมาะสมกับรูปร่างของเค้าด้วย และอีกอย่างเลยการเลือกกระถางจะช่วยเพิ่มความน่ารักของเค้าได้ด้วย และบางกระถางทำให้เค้าดูดีมีสไตล์แตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็นแบบนี้
  
ที่มารูปภาพ
กระถางดินเผาน่ารักๆแบบนี้ก็มีนะ เพิ่มความน่ารักให้กับเจ้าต้นกระบองเพชรไปอีกขั้น
สาวคงชอบแบบนี้แน่นอน
ที่มารูปภาพ
นอกจากคนที่อยากรู้สึกผ่อนคลายและเหมือนได้อยู่กับธรรมชาติมากขึ้น ต้องเป็นกระถางจากวัสดุไม้เลย และจังดูดีมีสไตล์กับดูไม่ซ้ำใคร



7.ถ้าหนูโตมากก็อยากย้ายบ้านนะ
ทุกคนยังจำได้มั้ยที่ผมบอกว่าเจ้ากระบองเพชรมันโตช้า แต่มันก็สามารถโต จนมีลำต้นที่ใหญ่มากๆได้เช่นกัน ในระหว่างที่เค้าโต ก็อย่าลืมสังเกตุการเติบโตของเค้าด้วยนะ เพราะการที่ต้องอยู่ในบ้านแคปๆหรือบ้านที่เก่าแล้ว เค้าคงไม่ชอบใจ เรายังไม่ชอบใจเลยใช่มั้ยละเหมือนคนเราที่เวลาใส่เสื้อตัวเดิมไปนานๆเสื้อก็จะเก่าจนใช้ไม่ได้กับตัวคนที่ใหญ่ขึ้นเพราะการเติบโตของร่างกาย เรายังหาเสื้อใหม่มาใช้เลย แต่หลายคนคงสงสัยว่าเจ้ากระบองเพชรนี้ต้องเปลี่ยนบ้านเมื่อไหร่ ให้สังเกตุจากการเติบโตของเค้าที่จะโตช้าลง และเค้าจะไม่อยากได้ใหม่เหมือนเราได้ไง งั้นเรามารู้วิธีการ "เปลี่ยนกระถางเจ้ากระบองเพชรกันเถอะ" โดยวิธีไม่ยากมากเลยแต่ก่อนที่เราจะเริ่มเปลี่ยนเราก็ต้องควรเตรียมอุปกรณ์ก่อน

ที่มารูปภาพ

ขั้นตอนการเตรียมอุปกรณ์
  1. ดินแคคตัสสำเร็จรูปหรือที่เราผสมเองก็ได้ครับ
  2. ถุงมือ(ใช้เวลาจับเจ้าต้นกระบองเพชร)
  3. กระถางที่ต้องการเปลี่ยน(ไม่ควรใหญ่กว่าต้นกระบองเพชรที่จะเปลี่ยนมาก)
  4. เม็ดดินเผาหรือหินทั่วไปก็ได้ครับ
  5. กาบมะพร้าวสับ
  6. เจ้าต้นกระบองเพชรที่ต้องการเปลี่ยนกระถาง
ที่มารูปภาพ

ขั้นตอนการเปลี่ยนกระถาง
  1. นำเจ้าต้นกระบองเพชรออกจากกระถางเก่า โดยแค่จับและดึงเบาๆ 
  2. สังเกตุที่รากของเจ้ากระบองเพชรที่เราพึ่งดึกออกมาว่ารากเค้ายาวเกินไปไหม 
  3. ใส่กาบมะพร้าวลองในก้นกระถางใหม่ 1 ใน 3 ส่วน
  4. ใส่ดินแคคตัสกับปุ๋ยไป 1 ส่วน
  5. นำเจ้าต้นกระบองเพชรใส่ไปได้เลยและเติมดินสักหน่อย (แต่อย่าใส่จนเต็มนะครับ)
  6. ดักเม็ดดินเผาไปตกแต่งหน้าดินด้านบน
แค่นี้เราก็เปลี่ยนบ้านใหม่ให้เจ้าต้นกระบองเพชรเรียบร้อย หลังทำการย้ายกระถางเสร็จไม่ควรรดน้ำเค้าภายใน 1-2 วัน ควรรอให้รากเค้าฟื้นตัวก่อน



8.เมื่อหนูป่วยอย่าทิ้งหนูนะ ต้องเป็นหมอให้หนู

ที่มารูปภาพ

ก็เป็นธรรมดาของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในโลกนี้ย่อมเกิดการเจ็บป่วยได้ คนเรายังเป็นหวัดเลย และเจ้าต้นกระบองเพชรของเราจะไม่ป่วยได้ไง การป่วยทุกคนต้องรู้อยู่แล้วว่าที่ป่วยนี้คือ ร่างกายไม่แข็งแรง เกิดจากไวรัสเชื่อแบคทีเรียต่างๆ แต่เจ้าต้นกระบองเพชร นั้นปกติไม่ค่อยเรื่องโรคต่างๆมาก่อกวนเค้าบ่อย แต่ก็มีอยู่อ่างเดียวที่ทำร้ายเค้าให้เกิดอาการป่วย นั้นคือ "รา" เวลาเป็นโรคนี้จะ เรียกว่า "โรครา" หรือ "โรคเน่า" เป็นโรคที่เกิดจากเราๆคนที่เลี้ยงเค้านี้แหละครับ ที่ทำให้เค้าป่วย โดนการเกิดโรคราเกิดจากการที่ เรารดน้ำเค้ามากไปรดบ่อยเกินไป จัดกระถางให้เค้าไม่ดีจัดจนดินแน่นไปจนระบายน้ำได้ไม่ดีเท่าที่ควร และเกิดจากการที่เค้าไม่ได้รับอากาศที่ถ่ายเทได้สะดวก

อาการของโรครา จะเริ่มมีแผลถลอกที่ต้น และเริ่มมีจุดสีน้ำตาลๆตามลำต้น ถ้าพบเจอให้รีบรักษาโดยทันทีๆม่งั้นเค้าจะต้องตาย
วิธีรักษา ต้องตัดส่วนที่เริ่มเป็นราออก ไม่ต้องเกิน2นิ้วนะ และทายาฆ่าเชื้อราที่บริเวณแผลและบริเวณที่เกิดแผลรอบๆ
อย่างที่ผมบอกว่าจะเลี้ยงเค้าก็ต้องใส่เค้าด้วยไม่ใช่เลี้ยงเล่น ถ้าเห็นเค้ามีอาการแบบนี้ต้องรีบรักษาเลย ไม่งั้นเราคงเป็นคนที่ฆ่าเค้าทางอ้อมทั้งรู้ว่าเค้าป่วยแต่ปล่อยให้ตาย ถ้าไม่อยากให้เค้าป่วยก็ต้องดูแลเค้าดีๆ รดน้ำให้พอดีอย่ามากไปอย่าน้อยไป และพาไปรับแสงแดดด้วยเป็นประจำ โรครานี้มักเกิดได้ง่ายในฤดูฝน



9.หนูก็มีกลุ่มคนที่ชอบหนูแต่หนูก็มีกลุ่มคนที่หนูไม่ชอบนะ

เราก็รู้ไปแล้วว่าเค้าก็ป่วยได้ถ้าดูแลอย่างไม่ใส่ใจ แต่เค้าสามารถป่วยได้อีกจาก "แมลงศัตรูพืช" ทั้งหลายที่ค่อยจะสร้างความเดือดร้อนและทำร้ายเจ้าต้นกระบองเพชรของเรา เป็นสิ่งเราต้องค่อยดูว่าต้นกระบองเพชรของเรานั้นได้มีแมลงมาก่อกวนหรือไม่ เรามาดูหน้าเจ้าแมลงนิสัยไม่ดีที่คิดจะมาทำร้ายเจ้าต้นกระบองเพชรน้อยๆของเรากัน




ที่มารูปภาพ
เพลี้ยแป้ง ศัตรูตัวหลักๆของเจ้าต้นกระบองเพชรเลย มันมีขนาดเล็กมาก แต่สังเกตได้จากกลุ่มขาวๆที่เกาะตามมุมที่มองหาได้ยากของกระบองเพชร เช่น โคนต้น ซอกหนาม ฐานตุ่มหนาม เลยทำให้เราไม่รู้ว่าต้นกระบองเพชรเรากำลังถูกรังแกอยู่ โดยเพลี้ยแป้งจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้นกระบองเพชร ทำให้ต้นเริ่มหยุดการเจริญเติบโตและตายในที่สุดเพราะถูกแย่งน้ำเลี้ยงจนไม่สามารถเลี้ยงต้นไว้ได้

การกำจัด ใช้แอลกอฮอล์เช็ดที่ผิวต้น 



ที่มารูปภาพ


          เพลี้ยแป้งที่ราก เป็นศัตรูที่อันตรายที่สุดเลยของกระบองเพชร จะดูลักษณะเหมือนเพลี้ยแป้ง แต่จะต่างกันที่ เพลี้ยแป้งที่ราก จะอาศัยอยู่แต่ที่รากของต้นกระบองเพชร เพลี้ยแป้งจะค่อยกัดทำลายระบบการทำงานของราก จนต้นกระบองเพชรเราเหี่ยวตายในที่สุด 
การกำจัด ใช้แอลกอฮอล์เช็ดที่ผิวต้น







ที่มารูปภาพ



เพลี้ยอ่อน ลักษณะของเพลี้ยอ่อน จะเป็นสีเขียวน้ำตาลปนแดงหรือดำ ชอบเกาอาศัยดูดกินตามส่วนอ่อนๆของต้นกระบองเพชร จะทำให้ต้นกระบองเพชรโตช้า มีต้นแคระ 

การกำจัด แปรงเล็กๆ จุ่มแอลกอฮอล์ปัดออก



ที่มารูปภาพ




เพลี้ยไฟ เป็นแมลงที่มีขนาดเล็ก เคลื่อนไหวรวดเร็ว จะค่อยดูดน้ำเลี้ยงตามส่วนต่างๆของต้น และทิ้งรอยเป็นจุดสีขาว

การกำจัด ใช้แอลกอฮอล์เช็ดที่ผิวต้น


ที่มารูปภาพ





ทากและหอยทาก เป็นที่มีปัญหาพอสมควร จะค่ิยกัดกินต้นของต้นกระบองเพชรเลย จะทิ้งรอยสีเงินตามพื้น 

การกำจัด แนะนำผงโรยไล่ทากและหอยทากให้ใช้ แต่ถ้าไม่มีให้ใช้มือหยิบออกได้เลย









10.ถ้าชอบหนูมากก็ทำหนูเพิ่มเรื่อยๆเลย
หลายคนคงจะหลงรักเจ้าต้นกระบองเพชรน้อยๆนี้แล้วแน่ๆ จนเลี้ยงแล้วอยากไปนำไปฝากคนรู้จักหรือนำไปขายในรูปของธุรกิจการขายกระบองเพชรก็ไม่เลวทีเดียว เจ้าต้นกระบองเพชรนี้สามารถ ขยายพันธุ์จำนวนความน่ารักออกได้ด้วยกัน 3 วิธี  1.การแยกหน่อ  2.การตัดยอด 3. การเพาะเมล็ด เรามารู้ไปพร้อมกันเลย

1.การแยกหน่อ

1.1.                    ต้นกระบองเพชรที่จะมาแยกหน่อนั้นควรมีขนาด 1 - 2 เซนติเมตรขึ้นไป (ยิ่งใหญ่ยิ่งดี โอกาสรอดสูง)
1.2.                    เริ่มต้นด้วยการจับส่วนที่มีต้นกระบองเพชรน้อย หมุน จนกระทั่งหลุดจากต้นแม่
1.3.                    สังเกตว่าจะมีน้ำบริเวณปลายของต้น นำหน่อกระบองเพชรที่ได้วางตากลมไว้ก่อนสัก 3-5 วัน รอให้แผลแห้งก่อน เพื่อป้องกันการเน่าของหน่อ   อย่าเพิ่งรดน้ำนะ
1.4.                    จากนั้น สามารถนำไปปลูกลงดินได้เลย

2.การตัดยอด
การตัดยอด ก็เหมือนกับการทาบกิ่งหรือเสียบกิ่ง การตัดยอดช่วยให้ต้นตอเลี้ยงต้นบนที่โตช้ากว่าให้โตเร็วขึ้น และ เพื่อต้นตอจะช่วยเลี้ยงต้นบนที่ไม่สามารถจะเติบโตเองได้ ให้เป็นเหมือนท่อส่งอาหาร
  1. ตัดยอดบนสุดของตอ ให้เรียบเท่ากัน ตัดมุมทั้งสามมุม 
  2. ใช้มีดปาดโคนหัวต้นที่จะนำมาต่อ
  3. นำสองต้นมาวางติดกัน แล้วมัดเชือก 
  4. ทิ้งไว้ในร่ม ไม่ต้องรดน้ำ ทิ้งไว้สองสัปดาห์ 
  5. หลังจากสองสัปดาห์ เอาออกมาตัดเชือกที่รัดไว้ออก ถ้าไม่หลุดก็เป็นอันว่าติดแล้ว





3.การเพาะเมล็ด  

1.    นำดินปลูกไปนึ่งไปอบฆ่าเชื้อก่อน (ใช้เครื่องไมโครเวฟได้เลย)
2.    นำภาชนะใส่น้ำสูงประมาณกระถางปลูก ผสมยากันราตามสัดส่วน
3.    ใช้ถ่านรองก้นกระถางและใส่ดินตามลงไป ทำให้ผิวหน้าเรียบแต่อย่าอัดดินให้แน่นมากไป
4.    นำกระถางที่มีดินเต็มไปแช่น้ำในภาชนะที่เตรียมไว้ ให้น้ำซึมเข้าจากทางก้นกระถางจนชุ่ม
5.    ค่อยๆโรยเมล็ดกระบองเพชรลงไป กระจายให้ทั่ว จากนั้นกลบหน้าบางๆ ให้บางอย่าหนาไป ด้วยทราย
6.    ยกกระถางขึ้นจากน้ำ เอาใส่ถุง คือหงายถุงเหมือนจะใส่ของและก็เอากระถางวางลงไป มัดปากถุง ถ้าเป็นซิปล็อกก็ง่ายหน่อยที่ว่ามัดปากถุงแล้วนี่คือภายในเดือนถึงสองเดือนนี่ไม่ต้องเปิดมารดน้ำแล้วนะครับ ความชื้นมันจะวนเวียนในนั้น นี่ไง ถึงต้องผสมยากันเชื้อราเอาไว้ก่อน
7.    เอาถุงใส่กระถางที่ว่านี้วางไว้ในที่ๆมีแสงสว่าง รำไรๆ 

    ที่มารูปภาพ

    มันไม่ธรรมดาใช่ไหมครับ เจ้ากระบองเพชร เจ้าต้นร้อยหนามเนี้ย ผมว่าความรู้เกี่ยวกับเจ้ากระบองเพชรของเพื่อนๆหลายๆคนที่ได้เข้ามาอ่าน ก็คงต้องได้รู้ว่าเจ้ากระบองเพชรแสนน่ารักของเรานี้ ก็ใช่ว่าจะสามารถมีความอดทนได้สูงอย่างที่เคยเห็นจากในหนังและภาพยนตร์หลายๆเรื่อง ที่จะเจอกระบองเพชรกลางทะเลทรายร้อนๆแสนแห้งแร้ง แค่เห็นเค้าก็ต้องดูอดทน ตายยาก ไม่เรื่องมากเวลาดูแล ไม่น่ามีศัตรูมาทำร้ายเค้า แล้วตอนนี้ละ เป็นไง เค้าไม่ใช่อย่างที่เคยคิดมาแน่ๆ เพราะเค้าทั้งชอบการเอาใจใส่ ชอบน้ำแต่ไม่ใช่ชอบจนต้องรดตลอดเวลานะ ตายพอดี ทั้งละเอียดอ่อนมากๆไม่ว่าเรื่องของการปลูกในดิน ที่ต้องดินเฉพาะ คือ ดินแคคตัส การให้ปุ๋ย การเปลี่ยนกระถางที่เหมือนง่ายแต่ก็ไม่ง่ายเลยนะ กสนดูแลเค้าจะโรคและแมลงศัตรูพืชที่ค่อยมาลังแกเค้าได้ทุกมื้อ เมื่อเราไม่ได้ดูแล และเค้ายังมีสายพันธุ์ที่แตกต่างและน่าหลงไหลทั้งหมดเลย ไม่เลี้ยงได้ไง ต้องเลี้ยงแล้ว ทิ้งท้ายหน่อย ถ้าชอบเค้ามากจนเลี้ยงเค้าและเค้าเริ่มที่จะขยายพันธุ์ได้ก็ลองทำดูกันนะ ได้ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อเข้าบ้าน และยังเป็นของขวัญและของฝากได้ด้วยน่ารักขนาดนนี้ใครก็อยากได้ ขอบคุณที่เข้ามาติดตามบล็อค บล็อคนี้นะครับผม ขอบคุณมาก




         


















    ไม่มีความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น